วิแพ่ง ภาค1 Flashcards
(69 cards)
กรณีมูลคดีเกิดในเรือไทย/อากาศยานไทยที่อยู่นอกราช ให้ศาลแพ่งเป็นศาลที่มีเขตอำนาจ
กรณีจล.ไม่มีภูมิลำเนาในราช
- ถ้าจล.มีภูมิลำเนาในราชภายใน 2 ปี ก่อนวันที่มีการเสนอคำฟ้อง ให้ถือว่าที่นั้นเป็นภูมิลำเนา
- ถ้าจล.ประกอบ/เคยประกอบกิจการในราช ให้ถือว่าสถานที่ใช้ประกอบกิจการวันที่เสนอคำฟ้อง/ใน2ปีก่อนฟ้องเป็นภูมิลำเนา
3
คำฟ้อง ให้เสนอศาลภูมิลำเนาจล./มูลคดีเกิด ไม่ว่าจล.มีภูมิลำเนาในราชหรือไม่
คำร้องขอ เสนอศาลมูลคดีเกิด/ภูมิลำเนาผู้ร้อง
4
คำฟ้องกก.อสังหาฯ เสนอศาลที่อสังหาตั้งอยู่ไม่ว่าจล.มีภูมิลำเนาอยู่ไทยหรือไม่/ภูมิลำเนาจล.
4ทวิ
ฟ้องนอกจากอสัง ซึ่งจล.ไม่มีภูมิลำเนาในราชและมูลคดีไม่เกิดในราช ถ้าโจทก์เป็นคนไทย/ภูมิลำเนาอยู่ในราช ให้ฟ้องศาลแพ่ง/ศาลที่โจทก์มีภูมิลำเนา
ถ้าจล.มีทส.ที่อาจถูกบังคับคดีในราช โจทก์เสนอคำฟ้องต่อศาลที่ทส.ตั้งอยู่
4ตรี
คำร้องขอแต่งตั้งผจก.มรดก ยื่นศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาขณะถึงแก่ความตาย
กรณีเจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาในราช เสนอศาลทรัพย์มรดก
4จัตวา
คำร้องขอกก.นิติบุคคล เสนอศาลสำนักงานใหญ่
4เบญจ
คำฟ้อง/คำร้องขออาจเสนอได้มากกว่า 2 ศาล ถ้ามูลความแห่งคดีเกี่ยวข้องกัน เสนอศาลใดศาลหนึ่งก็ได้
5
ก่อนยื่นคำให้การ จล.ขอโอนไปศาลอื่นที่มีเขตอำนาจได้โดยแสดงเหตุไม่สะดวก/ไม่ยุติธรรม ศาลเห็นสมควร จะสั่งอนุญาตก็ได้
ห้ามศาลอนุญาตเว้นแต่ศาลที่รับโอนคดีจะยินยอม ถ้าศาลที่รับโอนไม่ยินยอมให้ส่งเรื่องถึงอธิบดีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งและให้คำสั่งเป็นที่สุด
6
มาตรา 4-6/1 ต้องอยู่ภายใต้
(1) เกี่ยวเนื่องคดีที่ค้างพิจารณาศาลไหน เสนอศาลนั้น
(2) เกี่ยวเนื่องบังคับคดี เสนอศาลม.271
(3) คำร้องตาม 101
(4) คำร้องให้ถอน เปลี่ยนแปลงคำสั่งศาล เสนอศาลเกี่ยวเนื่องศาลที่พิพากษา/คำสั่ง
7
ไม่อาจพิจารณาคดีในศาลที่มีเขตอำนาจโดยเหตุสุดวิสัย คู่ความฝ่ายที่เสียหาย/อาจเสียหายเพราะการนั้น
จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องต่อศชต.ที่มีภูมิลำเนา/อยู่ในเขตศาลในขณะนั้น
10
ศาลตรวจคำคู่ความ
18
ศาลมีอำนาจสั่งให้คู่ความมาศาลด้วยตนเอง
19
ศาลมีอำนาจไกล่เกลี่ยคดี
20
 ศาลเห็นสมควรหรือคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ศาลมีอำนาจที่จะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลา เพื่อให้ดำเนิน/มิให้ดำเนินการพิจารณาใดๆก่อนสิ้นระยะเวลานั้น
การยืด/ขยายทำได้ต่อเมื่อศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้นเว้นแต่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย
23
ชี้ขาดปัญหาข้อกม
24
กระบวนพิจารณาผิดระเบียบ ศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายที่เสียหายเนื่องจากการที่ไม่ปฏิบัติเช่นว่านั้นยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบทั้งหมดหรือบางส่วนหรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ศาลเห็นสมควร
ข้อค้านเรื่องผิดระเบียบ คู่ความฝ่ายที่ เสียหายอาจยกขึ้นกล่าวได้ไม่ว่าเวลาใดใดก่อนมีคำพิพากษาแต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันที่ทราบข้อความ/พฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น แต่ต้องไม่ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้วหรือต้องไม่ได้ให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้น
ถ้าศาลสั่งให้เพิกถอนกระบวนการผิดระเบียบอันไม่ใช่เรื่องที่คู่ความละเลย ไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือศาลกำหนด เพียงเท่านี้ไม่เป็นการตัดสิทธิ์คู่ความฝ่ายนั้นที่จะดำเนินกระบวนพิจารณานั้นๆใหม่ให้ถูกต้อง
27
พิจารณาคดีโดยร้องขอจนท.มรตปท. เมื่อไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศหรือไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้สำหรับเรื่องนั้นให้ศาลปฏิบัติตามหลักทั่วไปแห่งกฎหมายระหว่างประเทศ
34
การนั่งพิจารณาต้องกระทำในศาลต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย เว้นแต่
(1) คดีเรื่องใดที่มีความจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อยในศาลเมื่อศาลได้ขับไล่หรือความฝ่ายใดออกไปจากบริเวณศาลโดยประพฤติไม่สมควร ศาลจะดำเนินการนั่งพิจารณาคดีต่อไปลับหลัง คู่ความฝ่ายนั้นก็ได้
(2) เพื่อความเหมาะสมหรือเพื่อคุ้มครองสาธารณะประโยชน์ศาลเห็นสมควรจะห้ามไม่ให้มีการเปิดเผยซึ่งข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ต่างๆทั้งหมดหรือบางส่วนแห่งคดีซึ่งปรากฎจากคำคู่ความหรือคำแถลงหรือจากคำพยานหลักฐานที่ได้สืบมาแล้วศาลจะมีคำสั่งดังต่อไปนี้ก็ได้
(ก) ห้ามประชาชนเข้าฟังการพิจารณาและดำเนินการพิจารณาโดยไม่เปิดเผย
(ข) ห้ามออกโฆษณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆเช่นว่านั้น
36
ศาลกำหนดวันนั่งพิจารณาและแจ้งให้คู่ความทราบแล้ว ถ้า คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะขอเลื่อนต้องเสนอคำขอเข้ามาก่อนหรือในวันนัดและแสดงเหตุผลแห่งการขอเลื่อนนั้น ห้ามศาลอนุญาตตามคำขอเว้นแต่การเลื่อนการนั่งพิจารณานั้นมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงได้และหากศาลไม่อนุญาตจะทำให้เสียความยุติธรรม
40
ขอเลื่อนการนั่งพิจารณาโดยอ้างว่าไม่สามารถมาศาลได้เพราะป่วยเจ็บ ศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอศาลจะมีคำสั่งก็ได้ และถ้าสามารถหา แพทย์ได้ก็ให้ตั้งแพทย์ตรวจ ถ้าผู้ที่ศาลตั้งให้ไปตรวจได้รายงานโดยสาบานตนหรือกล่าวคำปฏิญาณและศาลเชื่อว่าอาการของป่วยไม่ร้ายแรงถึงกับมาศาลไม่ได้ ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาว่าด้วยการขาดนัดหรือการไม่มาศาลของบุคคลที่อ้างว่าป่วย
41
คดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลคู่ความได้มรณะเสียก่อน ให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาจนกว่าทายาทของผู้มรณะหรือผู้จัดการซับมรดกของผู้มรณะหรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ โดยมีคำขอเข้ามาเองหรือโดยที่ศาลหมายเรียกเข้ามา จะต้องยื่นภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นมรณะ
ถ้าไม่มีคำขอของบุคคลดังกล่าวหรือไม่มีคำขอของคู่ความฝ่ายใด ในเวลาที่กำหนดให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี
42
ทายาทผู้มรณะ ผู้จัดการทรัพย์มรดก ผู้ปกครองทรัพย์มรดก ประสงค์จะขอเข้ามาเป็นคู่ความแทนให้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องศาลอาจสั่งให้ผู้ที่เข้ามาเป็นคู่ความแทนนั้นแสดงพยานหลักฐานและให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตในการเข้ามาเป็นคู่ความแทน
43
คำสั่งให้หมายเรียกบุคคลใดเข้ามาแทนผู้มรณะจะต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรเพื่อให้บุคคลนั้นมีโอกาสคัดค้าน ในศาลว่าตนมีได้เป็นทายาทของผู้มรณะหรือไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้ปกครองมรดกนั้น
ทายาท/ผู้จัดการมรดกหรือบุคคลผู้ถูกเรียกไม่จำต้องปฏิบัติตามหมายก่อนระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้เพื่อการยอมรับฐานะนั้นได้ล่วงพ้นไปแล้ว
ถ้าบุคคลที่ถูกศาลหมายเรียกยินยอมรับเข้ามาเป็นคู่ความแทนผู้มรณะให้ศาลจดรายงานพิสดารไว้และดำเนินคดีต่อไป
ถ้าบุคคลนั้นไม่ยินยอมหรือไม่มาศาลให้ศาลไต่สวนถ้าศาลเห็นว่าหมายเรียกนั้นมีเหตุผลฟังได้ให้ออกคำสั่งตั้งบุคคลผู้ถูกเรียกเป็นคู่ความแทนผู้มรณะแล้วดำเนินคดีต่อไปถ้าศาลเห็นว่าข้อขัดค้านของบุคคลผู้ถูกเรียกมีเหตุผลฟังได้ก็ให้ศาลสั่งเพิกถอนหมายเรียกนั้นและถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถเรียกทายาทอันแท้จริงหรือผู้จัดการมรดกเข้าเป็นคู่ความแทนผู้มรณะได้ภายในกำหนดหนึ่งปีให้ศาลมีคำสั่งตามควร
44
การพิจารณาและคำชี้ขาดตัดสินคดีแพ่งให้ใช้ภาษาไทย
46