วิแพ่งภาค 2 Flashcards
(32 cards)
คำฟ้องต้องแสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น
172
เมื่อได้ส่งหมายเรียกและคำฟ้องให้จำเลยแล้วให้จำเลยทำคำให้การเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายใน 15 วัน
ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทย์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น
จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก
ให้ศาลตรวจดูคำให้การนั้นแล้วสั่งให้รับไว้หรือคืนไปหรือสั่งไม่รับตามมาตรา 18
บทบัญญัติมาตรานี้ให้ใช้แก่บุคคลภายนอกที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดตามมาตรา 57(3) โดยอนุโลม
177
เมื่อศาลได้รับคำฟ้อง ให้ศาลออกหมายส่งส่งสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลย เพื่อแก้คดีและภายในกำหนด 7วันนับแต่วันยื่นฟ้อง ให้โจทก์ร้องขอต่อเจ้าหน้าที่เพื่อส่งหมายนั้น
(1) ห้ามฟ้องซ้อน
173
กรณีถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
(1) หลังเสนอคำฟ้องโจทก์เพิกเฉยไม่ร้องขอต่อเจ้าหน้าที่เพื่อส่งหมายและไม่แจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุแห่งการเพิกเฉยภายใน 7วันนับแต่วันยื่นฟ้อง
(2) โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามศาลเห็นสมควรโดยได้สั่งแก่โจทก์โดยชอบแล้ว
174
ก่อนจำเลยยื่นคำให้การโจทก์ถอนคำฟ้องได้โดยยื่นหนังสือต่อศาล
หลังจำเลยยื่นคำให้การโจทก์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ศาลจะอนุญาตหรือไม่อยู่ ภายในเงื่อนไขตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้ แต่
(1) ห้ามศาลอนุญาตโดยไม่ฟังจำเลยหรือผู้ร้องสอด ถ้าหากมีก่อน
(2) กรณีโจทก์ถอนฟ้องเนื่องจากมีข้อตกลงหรือประนีประนอมยอมความกับจำเลยให้ศาลอนุญาตตามคำขอ
175
การทิ้งฟ้องหรือถอนฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นคำฟ้อง รวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่นๆอันมีมาต่อภายหลังยื่นคำฟ้อง และทำให้คู่ความกับคืนสู่สถานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลย แต่ว่าคำฟ้องใดๆที่ได้ทิ้งหรือถอนแล้วอาจยื่นใหม่ได้ใต้อายุความ
176
ถ้าจำเลยฟ้องแย้งรวมมาในคำให้การให้โจทก์ทำคำให้การแก้ฟ้องแย้งยื่นต่อศาลใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ส่งคำให้การถึงโจทก์
178
โจทก์จำเลยมีสิทธิ์แก้ข้อหา ข้อต่อสู้ ข้ออ้างหรือข้อเถียงดังกล่าว ไว้ในคำฟ้องหรือคำให้การที่เสนอต่อศาลแต่แรก
การแก้ไขโดยอาจเป็นการแก้ไขในข้อต่อไปนี้
(1) เพิ่มหรือลดจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาทรัพย์สินที่พิพาทในฟ้องเดิม
(2) สละข้อหาในฟ้องเดิมบางข้อหรือเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้บริบูรณ์โดยวิธีเสนอคำฟ้องเพิ่มเติมหรือเสนอคำฟ้องเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของตนระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
(3) ยกข้อต่อสู้ขึ้นใหม่เป็นข้อแก้ข้อหาเดิม หรือที่ยื่นภายหลัง หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้ออ้าง หรือข้อเถียงเพื่อสนับสนุนข้อหาหรือเพื่อหักล้างข้อหาของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง
แต่ห้ามคู่ความฝ่ายใดเสนอคำฟ้องใดต่อศาลไม่ว่าวิธีฟ้องเพิ่มเติมหรือฟ้องแย้งภายหลังที่ได้ยื่นคำฟ้องเดิมต่อศาลแล้วเว้นแต่คำฟ้องเดิมและคำฟ้องภายหลังนี้จะเกี่ยวข้องกันพอรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้
179
แก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การที่คู่ความเสนอต่อศาลไว้แล้วให้ทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7วัน กรณีไม่มีชี้สองสถาน เว้นแต่มีเหตุสมควรที่ไม่อาจยื่นคำร้องได้ก่อน หรือเป็นการขอแก้ไขเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย หรือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย
180
เว้นแต่กรณีที่คำร้องนั้นอาจทำได้แต่ฝ่ายเดียว
(1) ห้ามไม่ให้มีคำสั่งยอมรับการแก้ไข เว้นแต่ได้ส่งสำเนาคำร้องให้แก่คู่ความอีกฝ่ายทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3วันก่อนกำหนดนัดพิจารณาคำร้องนั้น
(2) ห้ามศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดในประเด็นที่คู่ความได้แก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การ เว้นแต่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้มีโอกาสบริบูรณ์ในอันที่จะตรวจโต้แย้งและหักล้างข้อหาหรือข้อต่อสู้ใหม่ หรือข้ออ้าง หรือข้อเถียงใหม่ที่กล่าวไว้ในคำร้องขอแก้ไขนเน้น
181
เมื่อได้ยื่นคำฟ้องคำให้การ ให้ศาลชี้สองสถานโดยแจ้งกำหนดวันชี้สองสถานให้คู่ความทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน เว้นแต่
182
คดีมโนสาเร่คือ
(1) คดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกไม่เกิน 40,000 บาท
(2) คดีฟ้องขับไล่บุคคลใดใดออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 4000 บาท
189
จำนวนทุนทรัพย์หรือราคาอันพิพาทในคดีนั้นให้คำนวณดังนี้
(1) จำนวนทุนทรัพย์หรือราคาให้คำนวณตามคำเรียกร้องโจทก์ ส่วนดอกผลอันมิถึงกำหนดเกิดขึ้นในเวลายื่นคำฟ้องหรือค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์รวมอยู่ในคำเรียกร้องห้ามคำนวณร่วมเข้าด้วย
(2) กรณีมีข้อสงสัยหรือมีข้อโต้แย้งจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาให้ศาลประมาณตามที่เป็นอยู่ในเวลายื่นฟ้อง
(3) คดีอันเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่มีข้อหาหลายข้ออันมีทุนทรัพย์หรือราคาไม่เกิน 40,000 บาท ให้รวมจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
190
คดีมโนสาเร่ศาลมีอำนาจออกคำสั่ง ยนหรือขยายระยะเวลาได้ 
190ตรี
วิธีฟ้องคดีมโนสาเร่โจทก์ยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือหรือแถลงข้อหาด้วยวาจาก็ได้
กรณียื่นคำฟ้องเป็นหนังสือศาลเห็นว่าคำฟ้องไม่ถูกต้องหรือขาดสาระสำคัญบางเรื่องอาจมีคำสั่งให้โจทย์แก้ไขคำฟ้องให้ถูกต้องชัดเจนก็ได้
แถลงข้อหาด้วยวาจาให้ศาลบันทึกรายการข้อหา อ่านให้จบฟัง แล้วให้โจทก์ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ 
191
คดีมโนสาเร่ศาลกำหนดวันนัดและออกหมายเรียกจำเลย ให้จำเลยมาศาลเพื่อไกล่เกลีย ให้การ และสืบพยานในวันเดียวกัน และให้โจทย์มาศาลในวันนั้นด้วย
ให้ศาลไก่เกลียให้คู่ความตกลงกัน
ตกลงไม่ได้และจำเลยไม่ได้ยื่นคำให้การให้ศาลสอบถามคำให้การจำเลยจำเลยยื่นคำให้การเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาก็ได้ 
193
คดีมโนสาเร่โจทก์ไม่มาวันนัดพิจารณาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดีให้ศาลสั่งจำหน่ายคดี
จำเลยได้รับหมายเรียกแต่ไม่มาในวันนัดพิจารณาถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แต่ถ้าจำเลยยื่นคำให้การไว้ก่อนถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา 
193 ทวิ
จำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่นคำให้การแต่ไม่ยื่นในเวลาที่กำหนดถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

197
กรณีจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การให้โจทก์มีคำขอใน 15 วันนับแต่กำหนดเวลาให้จำเลยยื่นคำให้การสิ้นสุดลงให้ตนเป็นฝ่ายชนะคดีโดยขาดนัด
ถ้าโจทก์ไม่ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดี
โจทก์ยื่นคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาโดยขาดนัด แต่ถ้าศาลมีเหตุสงสัยว่าจำเลยจะไม่ทราบหมายเรียกให้มีคำสั่งส่งหมายเรียกใหม่
198
ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีโดยจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไม่ได้ เว้นแต่คำฟ้องโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมาย การนี้ศาลยกขึ้นอ้างโดยลำพังซึ่งข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบได้
ศาลอาจสืบพยานไปฝ่ายเดียวตามจำเป็นก็ได้ แต่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิ์แห่งสภาพบุคคลสิทธิ ในครอบครัว หรือคดีพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ให้ศาลสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว 
การกำหนดจำนวนเงินตามคำขอบังคับของโจทก์ศาลปฏิบัติดังนี้
(1) โจทก์มีคำขอให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินจำนวนแน่นอนศาลสั่งให้โจทก์สืบพยานเอกสารแทนการสืบพยาน
(2) โจทก์มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินจำนวนไม่แน่นอนศาลสืบพยานหลักฐานโจทก์ไปฝ่ายเดียวและอาจเรียกพยานหลักฐานอื่นมาสืบเองได้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การไม่มาศาลในวันสืบไม่ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
ถ้าโจทก์ไม่นำหลักฐานมาสืบถือว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลให้ศาลยกฟ้อง 
198ทวิ
คดีที่จำเลยบางคนขาดนัดยื่นคำให้การให้ศาลมีคำพิพากษาโดยขาดนัดยื่นคำให้การระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ขาดนัดนั้นก่อนและดำเนินพิจารณาคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ยื่นคำให้การต่อไป แต่ถ้ามูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้ซึ่งไม่อาจแบ่งแยกกันได้ให้ศาลรอการพิพากษาโดยขาดนัดยื่นคำให้การไว้ก่อน เมื่อศาลดำเนินพิจารณาจำเลยที่ยื่นคำให้การเสร็จให้ศาลมีคำพิพากษาไปตามรูปคดีสำหรับจำเลยทุกคน
กรณีจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่มาศาลในวันสืบไม่ถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา 
198ตรี
จำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดีและแจ้งต่อศาลในโอกาสแรกว่าตนประสงค์จะสู้คดี ศาลเห็นว่าการขาดนัดไม่เป็นไปโดยจงใจหรือมีเหตุสมควร ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การในเวลาที่กำหนดและดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่เวลาที่จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ถ้าจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่แจ้งต่อศาล หรือศาลเห็นว่าการขาดนัดเป็นไปโดยจงใจ หรือไม่มีเหตุอันสมควร ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เช่นนี้จำเลยอาจถามค้านพยานโจทก์ที่อยู่ระหว่างสืบได้ แต่จะนำสืบพยานหลักฐานตนไม่ได้
จำเลยไม่ยื่นคำให้การในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง หรือศาลไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ หรือศาลเคยมีคำสั่งพิจารณาคดีใหม่ตาม 199 ตรี มาก่อนจำเลยขอยื่นคำให้การตามมาตรานี้อีกหรือร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไม่ได้
199
จำเลยซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้แพ้คดีโดยขาดนัดยื่นคำให้การ ถ้าไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา จำเลยอาจมีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้เว้นแต่
(1) ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนั้นใหม่มาครั้งหนึ่งแล้ว
(2) คำขอพิจารณาคดีใหม่ต้องห้ามตามกฏหมาย 
199ตรี
คำขอพิจารณาคดีใหม่ให้ยื่นต่อศาลใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่จำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การ กรณีจำเลยที่ขาดนัดยื่นคำให้การไม่สามารถยื่นคำขอในระยะเวลาที่กำหนดโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ จำเลยอาจยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่ภายในกำหนด 15 วันนับแต่พฤติการณ์นั้นสิ้นสุดลง
ยังไงก็ตาม ห้ามยื่นคำขอนี้เมื่อผลกำหนด 6 เดือนนับแต่วันที่ได้ยึดทรัพย์หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษา
199จัตวา